หน้าเว็บ

กาลครั้งหนึ่ง ไม่ใช่แค่นิทาน... (นิทานการลงทุน)

   กาลครั้งหนึ่งมีเด็กชายคนนึงมองโลกสดใสและเชื่อว่าความรักคือสิ่งที่สวยงามที่สุด จะเป็นสิ่งสร้างความสุขที่สุดในชีวิตให้กับเขาเมื่อเขาได้พบกับหญิงสาวสวยและต่อมาได้เป็นคนรักกันเขาจึงคิดว่าสิ่งนี้คือที่สุดของชีวิตแล้ว เขาและหญิงสาวน่าจะผ่านสิ่งต่างๆในชีวิตไปได้และมีความสุขร่วมกันไปตลอดชีวิต ไม่นานนักประสบการณ์ก็สอนเขาว่าชีวิตไม่อาจดำรงอยู่ได้โดยปราศจากเงิน 
ที่โหดร้ายกว่านั้นคือแม้มีเงิน แม้ทำงานหาเงินได้แต่หากมันไม่มากพอหรือน้อยไปมันก็สร้างความทุกข์ให้กับชีวิตรักได้อย่างมากมาย เด็กชายผู้มองโลกสดใสพบปัญหาชีวิตคู่มากมายที่ก่อตัวมาจากปัญหาด้านการเงินจนชีวิตรักลงเอยด้วยการเลิกรา ชีวิตของเด็กชายผู้นี้จบสิ้นแล้วทุกอย่าง ความรักที่เปรียบดังทั้งหมดของชีวิตหายไปแล้ว ชีวิตของเขาไม่เหลือความสุข และได้เรียนรู้ว่าเงินนั้นสำคัญต่อชีวิตขนาดไหน


   กาลครั้งหนึ่ง เด็กชายคนนึงมองโลกไม่ค่อยจะสดใสสักเท่าไหร่ เขาตระหนักรู้ว่าโลกภายนอกนั้นโหดร้ายนักโดยเฉพาะกับคนที่ไม่มีเงิน เขาเชื่อว่าเงินคือคำตอบทั้งหมดของชีวิต ถ้าเขามีเงินมากพอเขาก็จะซื้อความสุขได้ทั้งชีวิต เขาใช้เวลาไปกับการศึกษาความรู้เรื่องการลงทุน ศึกษาวิธีที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่เขาตั้งใจทำก็เป็นผลเขามีความรู้เรื่องการลงทุน เขามีความรู้ความสามารถในการทำงานที่ดีเยี่ยม เขาใช้สิ่งนี้หาเงินได้มากมายและใช้มันไปกับการซื้อความสุขตามที่เขามีความเชื่อตั้งแต่ต้นว่าเงินเท่านั้นจะซื้อความสุขให้เขาได้ทั้งชีวิต เขาซื้อทุกสิ่งที่อยากได้ เขาชื้อสิ่งของราคาแพงมากมายจนในที่สุดเงินทองที่เขามีร่อยหรอลง และความรู้การลงทุนความสามารถในการทำงานไม่อาจสร้างเงิน สร้างผลตอบแทนได้ทันความอยากของเขา..
เขาได้เรียนรู้ว่าหัวใจของความมั่นคงและมั่งคั่งไม่ใช่ความรู้ในการลงทุนและความสามารถในการหาเงิน แต่เป็นนิสัยการใช้เงิน การประหยัดอดออม และรู้จักควบคุมความต้องการของตนเอง (ความต้องการของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด)
   กาลครั้งหนึ่ง เด็กชายผู้พยายามมองโลกตามความจริงตระหนักรู้อยู่เสมอว่านิสัยประหยัด อดออม ความรู้การลงทุน และการทำงานหนักอย่างต่อเนื่องจะทำให้ชีวิตพบกับความมั่นคง มั่งคั่งที่แท้จริงในปลายทางของชีวิต เขาใช้เวลาเกือบทั้งหมดชีวิตไปกับการทำงานและสร้างสินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่าได้อย่างต่อเนื่อง เขาไม่ใช้เงินของเขาไปกับการซื้อความสุขที่เขามองว่าเป็นสิ่งสิ้นเปลือง เมื่อเวลาผ่านไปเด็กชายคนนี้กลายเป็นชายที่ร่ำรวย มีเงินทองมากมายแบบที่ตัวเขาเองใช้ทั้งชาติก็ใช้ไม่หมด แต่เขาก็ได้พบว่าร่างกายของเขาก็แย่มากเช่นกันจากผลของการทำงานหนักมาทั้งชีวิตและขาดการเติมเต็มความสุขให้ตัวเอง
เขาได้เรียนรู้ว่าสุขภาพคือสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตไม่ใช่เงินตราและความมั่งคั่งที่เขาทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อให้ได้มันมาและก็รับรู้ว่ามันสายไปแล้วที่เขาจะมีความสุขกับเงินทองที่หามาได้ในสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงเหมือนเดิมอีกต่อไป..
   กาลครั้งหนึ่งมีเด็กชายคนหนึ่งได้อ่านบทความนี้ และได้เรียนรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตไม่มี ชีวิตที่แท้จริงคือ "บาลานซ์" (ความสมดุล) มันไม่มีประโยชน์ถ้าเขามีเงินแต่สุขภาพแย่ ไม่มีประโยชน์ถ้าเขามีความรักแต่ต้องทิ้งทุกอย่างของชีวิต ไม่มีประโยชน์ถ้าเขามีเงินทองมากมายแต่ใช้ไปกับความสุขฟุ่มเฟื่อยส่วนตัวที่ไม่ยั่งยืน และมันจะมีประโยชน์และเป็นประโยชน์ที่แท้จริงถ้าเขาจะสามารถทำงานหาเงิน ลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินไปพร้อมๆกับการใส่ใจดูแลสุขภาพและแบ่งปันสิ่งดีๆกับผู้อื่นบ้างตามกาลสมควร ถึงที่สุดแล้วเมื่อเขามีเงินทองมากมายเขาจะใช้มันซื้อความสุข ความฝันของตนเองที่เคยฝันไว้บ้างแต่ระงับบางความฝันเอาไว้เพื่อรักษา "บาลานซ์" และนำเงินที่มีไปสร้างประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม ถ้าหากเขามีบริษัทก็จะกลับคืนสู่สังคมในรูปแบบ CSR ที่มีคุณภาพ เพราะการมีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่นและเรียนรู้ที่จะรักตัวเองนั้นคือความสุขที่ยั่งยืน
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับบาลานซ์แห่งชีวิต

ณัฐนันท์ ชำนาญผา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น